Around Japan☆彡 2015年11月30日 ไปแตะขอบฟ้ากลางโตเกียวกับ Tokyo Sky Tree สวัสดีค่าา＼(^o^)／ มีใครกลัวความสูงบ้างมั้ยคะ...? ที่ถามอย่างนี้เพราะวันนี้มีเรื่องที่เกี่ยวกับอะไรสูงๆมาฝากค่ะ! ถ้าใครเคยไปโตเกียวช่วงประมาณ 3 ปีหลังมานี้จะต้องเคยเห็นตึกสูงตึกนี้ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางโตเกียวอย่างแน่นอน コメント（0） 続きを読む »タグ ：tokyosky tree Tweet
Character☆彡 2015年11月27日 ทำความรู้จักกับไข่ขี้เกียจ กุเดทามะ (Gudetama ぐでたま) สวัสดีค่าา＼(^o^)／ เชื่อว่าเดี๋ยวนี้หลายคนคงจะเคยเห็นตัวการ์ตูนที่เป็นไข่หน้าตาเบื่อๆง่วงๆกันมาบ้างนะคะ เจ้าไข่หน้าตาเบื่อๆง่วงๆนี้มีชื่อว่า กุเดทามะ (Gudetama ぐでたま) หรือที่คนไทยเรียกว่า ไข่ขี้เกียจนั่นเองค่ะ กุเดทามะเป็นคาแรคเตอร์หนึ่งของ Sanrio เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2013 และเป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อมีอนิเมะความยาว 1 นาที ฉายทางช่อง TBS ชื่อกุเดทามะมาจากคำว่า gudegude (ぐでぐで) หรือ gudenguden (ぐでんぐでん) ที่แปลประมาณว่า เมาจนร่างกายไม่สามารถทรงตัวได้ รวมกับคำว่า tama (たま) ที่มาจากคำว่า tamago (たまご) ที่แปลว่าไข่นั่นเองค่ะ ด้วยความขี้เกียจที่ดูน่ารักนี้ทำให้กุเดทามะชนะรางวัลที่ 2 จากการประกวดคาแรคเตอร์ของซานริโอที่เป็นของกิน ในปี 2013 ด้วยค่ะ ภาพที่เห็นบ่อยๆก็จะเป็นภาพกุเดทามะกำลังนอนขี้เกียจอยู่บนอาหารเมนูต่างๆ มีข้าวผัดกระเพราของไทยด้วยนะ ถ้าใครยังไม่เคยดูอนิเมะของเจ้ากุเดทามะ ลองดูที่ลิงค์นี้ได้เลยค่าา จากในอนิเมะก็จะเห็นว่านางจะบ่นว่า ขี้เกียจอ่า~ เบื่ออ่า~ ไม่อยากทำอะไรเลย~ อยู่ตลอดเวลา (มันตรงกับความรู้สึกส่วนตัวของหลายๆคนใช่มั้ย 5555) นอกจากนี้สินค้าที่เกี่ยวกับกุเดทามะก็มีทำออกมาขายเพียบเลยค่ะตามสไตล์ของซานริโอ้ สติ๊กเกอร์ใน Line ก็มีนะ และล่าสุดก็มีคาเฟ่กุเดทามะที่โอซาก้าด้วย ทีนี้เราก็จะได้เห็นเจ้ากุเดทามะมาเป็นอาหารจริงๆแล้ว แหม...คนญี่ปุ่นนี่ช่างคิดจริงๆเลยนะคะ จากไข่อาหารธรรมดาที่เรากินกันอยู่ทุกวัน กลายมาเป็นคาแรคเตอร์ที่สร้างความนิยมขึ้นมาได้ แถมอีกนิดสำหรับคลิปสอนทำขนมเป็นหน้ากุเดทามะค่ะ วันนี้ไปละค่าา เจอกันบล็อคหน้านะคะ（＾∇＾）♡ ติดตามสินค้าตัวการ์ตูนน่ารักฟรุ้งฟริ้ง ได้ที่ Instagram: jollyland.shop ( https://www.instagram.com/jollyland.shop/ ) ☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆ コメント（1） タグ ：gudetamasanrioぐでたま Tweet
Food&Dessert☆彡 2015年11月26日 かき氷 น้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่น @ After You สวัสดีค่าา＼(^o^)／ เมื่อไม่นานมานี้เยลลี่ได้ไปทานขนมหวานที่ร้าน After You กับเพื่อนๆมาค่ะ ร้านนี้โด่งดังจากเมนูชิบูย่าฮันนี้โทสต์มานาน แบบว่าเป็นเมนูขึ้นชื่อที่ไม่ว่าใครมาทานก็ต้องสั่ง และช่วงนี้ที่ร้านก็มีเมนูใหม่ เป็นน้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่น หรือคากิโกริ (かき氷) นั่นเองค่ะ ตอนนี้มีด้วยกันสองรสชาติด้วยกัน เยลลี่ไปทานกับเพื่อนอีก 3 คนเลยลองทั้ง 2 รสซะเลย ลักษณะน้ำแข็งไสที่มาเสิร์ฟจะอยู่ในถ้วยเรียงตัวพูนขึ้นมาสูงๆ ตอนทานก็จะเลอะเทอะนิดนึงนะ 5555 ไปดูหน้าตากันเลยดีกว่าค่ะ อันแรกมีชื่อว่า Strawberry Cheesecake Kakigori เป็นน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะรสนมที่มีชีสเค้กผสมอยู่ด้วยค่ะ ข้างในตัวน้ำแข็งไสจะมีครัมเบิ้ล ส่วนด้านบนราดด้วยซอสและเนื้อสตรอเบอร์รี่เยิ้มๆ ดูน่าทานมากเลย และด้วยน้ำแข็งที่เยอะขนาดนี้ ทานๆไปซอสท็อปปิ้งอาจจะหมดซะก่อน ทางร้านเลยเสิร์ฟพร้อมกับซอสสตรอเบอร์รี่แยกมาให้ด้วย และอีกรสนึงชื่อว่า Milo Volcano Kakigori เป็นน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะรสนมเหมือนกันค่ะ ข้างในน้ำแข็งไสจะมีขนมปัง ส่วนด้านบนจะโรยด้วยผงไมโล เสิร์ฟพร้อมซอสไมโลเอาไว้ราดเพิ่มได้ค่ะ ทานแล้วติดใจทั้งสองรสเลยยยย ทำออกมารสชาติกำลังดีไม่หวานจนเกินไป หวานๆเย็นๆเข้ากับอากาศเมืองไทยม๊ากมากก (แต่แอบคิดว่าราคาก็...ใช้ได้เลยนะ) เจอกันบล็อกหน้าจ้าาา（＾∇＾）♡ ☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆ コメント（0） Tweet
Food Decoration☆彡Tutorial☆彡 2015年11月25日 จับตัวการ์ตูนมาใส่เบนโตะ สวัสดีวันลอยกระทงค่าา＼(^o^)／ มีใครเคยทานเบนโตะหรือข้าวกล่องของญี่ปุ่นกันบ้างมั้ยคะ? ตามร้านอาหารญี่ปุ่นหลายๆร้านจะมีเมนูเบนโตะอยู่ด้วยค่ะ โดยจะเสิร์ฟเป็นกล่องข้าว ข้างในมีอาหารหลายๆเมนูรวมในกล่องเดียว วันนี้เรามารู้จักต้นกำเนิดเบนโตะ หรือข้าวกล่องญี่ปุ่นกันค่ะ เบนโตะ เป็นชื่อเรียกข้าวกล่องญี่ปุ่น ซึ่งก็คือข้าวกล่องทั่วไป โดยส่วนใหญ่แล้วคุณแม่จะทำให้ลูกๆไปทานที่โรงเรียน หรือทำให้สามีไปทานที่ทำงาน เบนโตะจึงเกิดจากความใส่ใจและความตั้งใจของผู้ทำ ที่อยากส่งมอบมื้ออาหารที่ดีให้กับผู้รับ สมัยก่อนการทำเบนโตะแบบญี่ปุ่นไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร เพียงแค่นำข้าวตากแห้งใส่ถุงผ้าและพกติดตัวไปได้ทุกที่ แต่เมื่อราวๆศตวรรษที่ 16 ก็เกิดวัฒนธรรมเบนโตะขึ้น เมื่อมีคนเกิดไอเดียทำอาหารใส่ลงในกล่องไม้ เพื่อนำไปนั่งทานในระหว่างชมดอกซากุระหรือในพิธีชงชา ตั้งแต่นั้นวัฒนธรรมเบนโตะนี้ก็ขยายตัวและมีการใส่ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆลงไปให้หน้าตาของอาหารในเบนโตะดูน่าทานมากขึ้น เท่าที่ดูแล้วการทำเบนโตะก็เหมือนกับงานศิลปะอย่างหนึ่ง ทั้งการเลือกสีที่เข้ากัน จัดเรียงอย่างลงตัวในกล่องข้าว เป็นการเพิ่มสีสันให้มื้ออาหารได้อย่างดีทีเดียว ความคิดต่อยอดในการทำเบนโตะไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อมีการนำไอเดียตกแต่งอาหารในเบนโตะให้เป็นตัวการ์ตูนชื่อดังต่างๆมากมาย วิธีนี้นอกจากจะทำให้อาหารน่ารักน่ารับประทานแล้ว ยังเป็นการดึงความสนใจให้เด็กสามารถทานผักได้ด้วยนะคะ วันนี้เยลลี่มีคลิปสอนทำเบนโตะเป็นตัวการ์ตูนต่างๆมาให้ชมค่ะ แต่ละแบบน่ารักมากเลยยย ดูๆไปวิธีก็ไม่ได้ยากนะคะ แค่เราลองคิดและดัดแปลงอะไรนิดหน่อยก็จะได้อาหารที่น่ารักน่ารับประทานแบบนี้แหละค่ะ เจอกันบล็อคหน้านะคะ（＾∇＾）♡ ☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆ コメント（0） Tweet
Food&Dessert☆彡 2015年11月24日 กรุบๆกรอบๆกับซูชิหน้าของทอดที่ Fuji สวัสดีค่าา＼(^o^)／ เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาเยลลี่ได้ไปทานอาหารที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ฟูจิ (Fuji Japanese Restaurant) กับครอบครัวมาค่ะ มีเมนูซูชิเมนูนึงที่เยลลี่ชอบมากกกกกก เป็นซูชิหน้าของทอด นั่นก็คือ ซูชิหน้ากุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอดค่ะ ส่วนตัวแล้วชอบซูชิหน้านี้มากเลยค่ะ แบบว่ากรุบกรอบ กุ้งที่เนื้อเด้งๆ โรยหน้าด้วยไข่กุ้งอีก กินแล้วฟินมากกกก เนื่องจากมาทานกับครอบครัวค่ะก็เลยสั่งอาหารมาหลายเมนู มาดูหน้าตาอาหารส่วนหนึ่งที่สั่งมากันค่ะ อันนี้คือ ข้าวห่อสาหร่ายไส้กุ้งเทมปุระค่ะ ส่วนอันนี้ เกี๊ยวซ่าทอด มีน้ำซอสหวานนิดๆราดมาด้วย อร่อยดีค่ะ เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่ของทอด งาน healthy เราก็มีค่ะ จานนี้เป็นสลัดผักผสมมันฝรั่ง (แต่ก็ดูไม่ค่อยจะเฮลตี้เท่าไหร่นะ น้ำสลัดเป็นแบบครีมอย่างงี้) นี่เป็นเมนูส่วนหนึ่งที่สั่งมาวันนั้น 55555555 อร่อยมากเลย อย่างที่บอกค่ะว่าชอบซูชิหน้ากุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอดของที่นี่มากๆ ไม่แค่ซูชิหน้านี้เท่านั้นนะคะ จริงๆก็ชอบหน้าอื่นๆด้วย ส่วนหนึ่งที่ชอบเพราะซูชิที่นี่ก้อนข้าวไม่ใหญ่จนเกินไป บางที่นี่ก้อนใหญ่มากกกก แบบว่าก็อยากกินหน้ามากกว่าข้าวอยู่แล้วอะเนอะ แล้วอีกอย่างคือข้าวไม่เปรี้ยวจนเกินไปค่ะ บางร้านก็ทำซะเปรี้ยวจนทานไม่ค่อยได้เลย ว่าแล้วก็อยากทานอีกแล้วนะเนี่ยย เจอกันบล็อคหน้าค่าา（＾∇＾）♡ ☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆ コメント（0） Tweet
Event☆彡 2015年11月23日 PARADIZOO The LITTLE JUNGLE @ Paradise Park สวัสดีค่าา＼(^o^)／ เมื่อวานนี้เยลลี่ได้ไปเดินเล่นที่ห้าง Paradise Park มาค่ะ บังเอิญว่าที่ห้างกำลังจัดงานแสดงสัตว์หาชมยากเป็นวันสุดท้ายพอดีเลย งานมีชื่อว่า PARADIZOO The LITTLE JUNGLE ซึ่งเป็นงานที่มีจัดอยู่เป็นประจำ งานแต่ละครั้งก็จะนำสัตว์แปลกๆมาจัดแสดงแตกต่างกันไป ในงานมีการแสดงของสัตว์บนเวทีและนำสัตว์บางชนิดที่ไม่อันตรายมาให้ได้สัมผัสตัวเป็นๆด้วยค่ะ แบบว่าอุ้มถ่ายรูปได้เลย จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เยลลี่เก็บภาพสัตว์บางชนิดที่นำมาแสดงในงานมาฝากด้วยค่าา ไปชมกันดีกว่า ตัวแรกเป็นนกตระกูลนกเค้าแมวค่ะ ตัวนี้ไม่มีป้ายบอกชื่อแต่ไปถามเจ้าหน้าที่มา เขาบอกว่าน่าจะชื่อว่า นกเค้าแว่น ค่ะ ตาโตๆหน้าตาน่ารักมากเลย และนี่คือ จระเข้แคระ (Dwarf crocodile) พบในทวีปแอฟริกาค่ะ เป็นชนิดของจระเข้ที่เล็กที่สุดในโลก โดยมีขนาดเมื่อโตเต็มวัยยาวประมาณ 1.5 เมตร หรือประมาณ 5 ฟุตเท่านั้นค่ะ ตัวนี้คือ เฟนเน็คฟ็อกซ์ (Fennec fox) หรือจิ้งจอกทะเลทรายค่ะ เป็นหมาจิ้งจอกขนาดเล็ก ขนสีน้ำตาลเหลือง ดวงตาสีดำ และมีใบหูที่ยาวมาก ด้วยหูที่ใหญ่ขนาดนี้ทำให้เจ้าเฟนเน็คฟ็อกซ์นั้นมีการรับรู้จากเสียงได้ดีค่ะ มีถิ่นกระจายพันธุ์อยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา อาศัยรวมกันเป็นฝูงเล็กๆอยู่ในทะเลทราย หากินในเวลากลางคืน โดยมีอาหารหลักคือ แมลงชนิดต่างๆ นอกจากนั้นแล้วยังสามารถกินสัตว์ที่มีขนาดเล็ก ไข่นก และผลไม้ได้อีกด้วยค่ะ ด้วยหน้าตาที่น่ารัก หูกางๆ และขนาดที่ตัวเล็กกระทัดรัดแบบนี้ ทำให้ตอนนี้คนเริ่มนิยมเลี้ยงเฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านกันด้วยค่ะ ตัวนี้ไม่แน่ใจว่าชื่ออะไร ไม่มีป้ายบอก แอบไปจับมาด้วย ผิวหนังออกสากๆ เจ้าหน้าที่บอกว่ากำลังลอกคราบอยู่ด้วยค่ะ เจ้าตัวนี้มีชื่อว่า เฟอเรท (Ferret) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง จำพวกวีเซลหรือพังพอน เฟอเรทเป็นสัตว์ที่มีจำนวนชิ้นกระดูกสันหลังมากที่สุดในโลก ทำให้สามารถมุดหรือลอดไปตามโพรงหรือรูต่างๆได้อย่างคล่องแคล่ว เจ้าตัวนี้เยลลี่ไปอุ้มมาด้วยค่ะ ตัวยาวและน้ำหนักเบามากๆ ขนยาวแต่ไม่ค่อยนุ่มนะ ตัวต่อมาเป็น ชินชิล่า (Chinchila) เป็นสัตว์ตระกูลฟันแทะ เลี้ยงลูกด้วยนม หน้าตาคล้ายหนูหรือกระต่าย มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ แถบเทือกเขาแอนดิส ความพิเศษของเจ้าชินล่าคือขนที่เขาว่านุ่มที่สุดในโลก! พูดแล้วก็อยากลองจับนะคะ แต่เขาเอาไว้ในกรง คงกลัวจะโดนจับมากจนเฉามือตายซะก่อน 5555 ตัวสุดท้ายเป็น แพรรีด็อก (Prairie Dog) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ตระกูลฟันแทะวงศ์เดียวกับกระรอก ลักษณะใบหูเล็ก ดวงตากลมโต ขนสีน้ำตาลทองปลายหางเป็นสีดำ ฟันแข็งแรง ขนคู่หน้ามีเล็บที่แหลมคมและแข็งแรง เพื่อใช้ในการขุดดินหาอาหารและขุดโพรงเป็นที่อยู่อาศัย หากินในเวลากลางวัน แพรรีด็อกกินพืชและสัตว์พวกแมลงและหนอนเป็นอาหาร เป็นสัตว์สังคม อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง นอกจากสัตว์น่ารักๆพวกนี้ ยังมีพวกสัตว์หายากชนิดอื่นๆเช่น สล็อต นกเรีย เต่าเรดฟุต อนาคอนด้าและงูชนิดต่างๆอีกด้วย เป็นงานที่ดีมากๆเลยค่ะ เวลานิดเดียวกับการเดินดูสัตว์ในงานอาจจะทำให้ใครหลายๆคนได้รับประสบการณ์แบบใหม่ที่หาที่ไหนไม่ได้ก็ได้นะ แล้วเจอกันบล็อกหน้าค่าา（＾∇＾）♡ ☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆ コメント（0） Tweet
Cafe☆彡 2015年11月20日 จิบกาแฟยามบ่ายกับร้านกาแฟเก๋ๆ ARTiS Coffee สวัสดีค่าา มาเจอกันวันนี้วันศุกร์แล้วว＼(^o^)／ บ่ายๆแบบนี้รับกาแฟแก้ง่วงระหว่างเรียนหรือทำงานซักแก้วมั้ยคะ? วันนี้เยลลี่มีร้านกาแฟมาแนะนำค่ะ ร้านหาไม่ยาก อยู่ตรงปากซอยสุขุมวิท 18 ใกล้กับ BTS สถานีอโศกเลยค่ะ ร้านมีชื่อว่า ARTiS Coffee ค่ะ เป็นร้านกาแฟจากอิมพอร์ตจาก San Francisco สหรัฐอเมริกา โดยสาขาที่สุขุมวิท 18 นี่เป็นสาขาแรกในประเทศไทยค่ะ ร้านขนาดไม่ใหญ่มาก แบ่งที่นั่งเป็นสองส่วน จะนั่งในร้านหรือนอกร้านก็ได้ค่ะ แต่อากาศเมืองไทยแบบนี้ ขอนั่งในร้านแล้วกันนะคะ เข้าไปในร้านแล้วหอมกลิ่นกาแฟมากเลย บรรยากาศในร้านตกแต่งสไตล์เรียบง่ายสบายๆ เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนจิบกาแฟเบาๆ หรือจะมานั่งทำงานก็โอเคนะ ที่ร้านมี Free Wi-Fi ให้ด้วยค่ะ จุดเด่นของร้านคือใช้เมล็ดกาแฟที่คัดสรรคุณภาพมาอย่างดี นำเข้าจากต่างประเทศ รวมถึงเมล็ดกาแฟจากประเทศไทยด้วยค่ะ หัวใจสำคัญอีกอย่างที่ทำให้กาแฟของที่นี้มีรสชาติดีนั่นก็คือ การคั่วบดเมล็ดกาแฟ ซึ่งทำแบบสดใหม่วันต่อวัน เมนูแนะนำของร้าน คือ Flat white เป็นกาแฟร้อนรสเข้มข้นพร้อมด้วยฟองนม ส่วนเครื่องดื่มเย็นจะเป็น Ice Caramel Macchiato หรือ Cappuccino Frappe แต่ถ้าใครไม่ชอบทานกาแฟก็มีพวกช็อคโกแลตเย็น หรือชาเขียวเย็นก็มีค่ะ ทานเครื่องดื่มแล้วไม่มีขนมมันก็ดูจะขาดอะไรไปเนอะ ที่ร้านก็มีขนมให้เลือกทานกันหลายเมนูเลยค่ะ ทั้งแซนวิช คัพเค้ก สโคน มัฟฟิ่น หรือคุกกี้ก็มีเช่นกัน เอาล่ะค่ะ ว่ากันมายาวแล้ว เราไปสั่งเครื่องดื่มมาชิมกันเลยดีกว่า แต่ก่อนจะไปสั่งเครื่องดื่ม พอดีว่าได้แผนที่ Asoke map มาจากโรงแรมนึงในย่านอโศกมาด้วย หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ เป็นแผนที่แนะนำร้านอาหารและร้านค้าต่างๆในย่านอโศก มีภาษาญี่ปุ่นด้วยนะคะ แล้วก็มีคูปองส่วนลดของแต่ละร้านอยู่ในแผนที่ด้วยยย ดีตรงนี้แหละ 55555 นี่ไง มีแนะนำร้าน ARTiS Coffee ด้วย มีคูปองส่วนลดตั้ง 15% แน่ะ งั้นอย่าช้าค่ะ ไปสั่งกันเลยดีกว่า 55555 แล้วก็ได้มาเป็น Iced Caramel Macchiato แก้วเล็ก กับคุกกี้ ส่วนอันนี้เป็น Choc Chip Frappe ค่ะ ช็อกโกแลตปั่นพร้อมวิปครีมโรยเม็ดช็อคชิป กับ Mini Cupcake Red Velvet อร่อยมากเลยค่ะ กาแฟรสชาติเข้มข้น ส่วนช็อคโกแลตปั่นก็ปั่นได้เนียนละเอียดดีมากเลย ชอบตรงที่ไม่หวานมากแบบกำลังดี ทานกับขนมก็อร่อยเข้ากั๊นเข้ากัน เครื่องดื่มก็อร่อย ขนมก็อร่อย แถมยังได้ส่วนลดอีก บอกเลยว่าคุ้ม ใครอ่านจบแล้วอยากลองชิมกาแฟของที่นี้ดูบ้างก็เข้าไปที่ร้านดูนะคะ ร้านหาไม่ยากเลย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook ของร้านก็ได้ค่ะ https://www.facebook.com/artisbangkok/ หรือถ้าอยากได้ส่วนลดแบบเยลลี่ ก่อนไปที่ร้านก็ไปหยิบ Asoke map ได้ตามโรงแรมในย่านอโศกเลยค่ะ แล้วเจอกันอาทิตย์หน้านะค๊าา Happy Weekend ค่าา（＾∇＾）♡ ☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆ コメント（0） Tweet
Interesting Items☆彡 2015年11月19日 アイス大福 มาทำไดฟุกุไอศกรีมกัน~! สวัสดีค่าา＼(^o^)／ เคยทานขนมไดฟุกุหรือขนมโมจิกันมั้ยคะ? อาจจะสับสนกันอยู่นิดหน่อยนะว่าขนมอันไหนเรียกโมจิ อันไหนเรียกไดฟุกุ ความจริงแล้วขนมทั้งสองอย่างทำมาจากแป้งชนิดเดียวกัน คือ ข้าวเหนียว ค่ะ แป้งข้าวเหนียว เมื่อนำไปนึ่งและนำมาทุบเป็นเนื้อเดียวกัน ก็จะได้เป็นโมจิที่สามารถทานได้เลย หรือจะนำไปตากแห้งและย่างไฟก็ได้ค่ะ หรือถ้านำแป้งโมจิที่ได้จากการนึ่งไปคลุกกับแป้งข้าวโพด นำมาทำเป็นแผ่นแล้วห่อไส้ข้างใน ก็จะได้ขนมไดฟุกุนั่นเองค่ะ ขนมไดฟุกุในปัจจุบันมีหลายไส้ด้วยกัน ส่วนไส้แบบดั้งเดิมจะเป็นไส้ถั่วแดง แล้วก็เกิดความคิดต่อยอดด้วยการใส่ไอศกรีมรสชาติต่างๆแทนไส้แบบธรรมดา ได้เป็นไดฟุกุไอศกรีมที่หน้าตาประมาณนี้ค่ะ เป็นขนมที่ได้ทั้งรสชาติหวานๆเย็นๆจากไอศกรีม แล้วก็ได้ความเหนียวหนึบของแป้งโมจิไปพร้อมๆกัน เห็นแล้วก็อยากทานขึ้นมาเลยค่ะ ที่ญี่ปุ่นมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราสามารถทำขนมไดฟุกุทานเองที่บ้านได้ง่ายๆด้วยนะคะ มีคลิปวิธีการทำมาให้ดูด้วยค่ะ เห็นแล้วก็น่าสนุก อยากได้เจ้าอุปกรณ์นี้มาใช้บ้างจัง คงจะได้กินขนมไดฟุกุไอศกรีมกันทุกวันแน่เลย ไว้มีอะไรน่าสนใจจะเอามาฝากอีกนะคะ เจอกันบล็อคหน้าจ้าา（＾∇＾）♡ ☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆ コメント（0） Tweet
Blah Blah Blah☆彡 2015年11月18日 สัมผัสความเป็นไทยผ่านผ้าไหมทอมือที่ร้าน ALMETA Silk Boutique สวัสดีค่าา＼(^o^)／ ถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์แบบไทยๆที่ชาวต่างชาติชื่นชอบ สิ่งหนึ่งที่เราจะนึกถึงก็คือ ผ้าไหมไทยค่ะ ผ้าไหมไทยเป็นผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เกิดจากวิธีการทอที่ละเอียดและพิถีพิถัน ทำให้ได้ผ้าไหมที่มีคุณภาพ ลักษณะของผ้าไหมไทยคือ เนื้อผ้าฟู อ่อนนุ่ม มีน้ำหนัก และที่สำคัญเนื้อผ้าจะขึ้นแสงแวววาวเป็นมันเลื่อม ช่วยเสริมบุคคลิกภาพสำหรับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ผ้าไหมไทยถูกผลักดันให้ออกสู่ตลาดต่างประเทศทำให้ชาวต่างชาติรู้จักและนิยมผ้าไหมไทยมากขึ้น มีการผลิตสินค้าและของที่ระลึกต่างๆของไทยที่ทำจากผ้าไหมออกมามากมายเลยค่ะ การนำผ้าไหมมาผลิตเป็นของที่ระลึกนอกจากจะทำให้ชาวต่างชาติได้รู้จักผ้าไหมไทยมากขึ้น ยังเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับชาวบ้านที่ผลิตผ้าไหมไทยอีกด้วย และเมื่อวานนี้เยลลี่ก็ได้มีโอกาสไปที่ร้านผ้าไหมร้านนึงค่ะ ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี้เอง ร้านผ้าไหมไทยนี้มีชื่อว่าร้าน ALMETA ค่ะ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 หรือซอยประสานมิตร ใกล้ๆกับอโศกนี้เอง ร้าน ALMETA เป็นผู้ผลิตผ้าไหมไทยคุณภาพระดับโลก มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 ผ้าไหมของร้านเป็นผ้าไหมโคราชที่ทอด้วยมือตามวิธีการผลิตแบบไทย มีการออกแบบให้ดูร่วมสมัยด้วยสีสันที่สดใสผสมผสานกับเทคนิคการเย็บปักที่ประณีต และยังเพิ่มวัสดุธรรมชาติใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์ เช่น เปลือกหอยและขนนกชนิดต่างๆ ทำให้เกิดดีไซน์ใหม่ที่ดูแตกต่างและมีเอกลักษณ์ อีกหนึ่งสิ่งที่ทางร้านแอลเมต้าภูมิใจนำเสนอคือ ผ้าไหมที่สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ หรือที่เรียกว่า Lazy Silk ค่ะ สินค้าในร้านมีทั้งผ้าไหมที่สามารถซื้อแบบตัดแบ่งเป็นเมตร หรือจะสั่งตัดเป็นชุดกับทางร้านเลยก็ได้ค่ะ ทางร้านมีบริการส่งชิปปิ้งไปต่างประเทศให้ด้วย นอกจากผ้าไหมในร้านก็จะมีพวกของใช้ต่างๆที่ทำจากผ้าไหม รวมถึงผ้าปูที่นอนเป็นผ้าพิมพ์ลายแบบไทยๆด้วยค่ะ ใครสนใจอยากชมสินค้าเพิ่มเติมลองเข้าไปที่ร้านดูนะคะ ALMETA Sukhumvit Showroom "Silk Boutique" Address : 20/3 Sukhumvit Soi 23 Bangkok 10110 Thailand BTS. Asoke Station MRT. Sukhumvit Station (Exit 2) Telephone : 0-2-204-1413 , 0-2-258-4227 Fax : 0-2-664-2858 Website : http://www.almeta.com/ , https://www.facebook.com/AlmetaBkk E-mail : almeta@almeta.com ☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆ コメント（0） Tweet
Food&Dessert☆彡 2015年11月17日 ชิมอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฮาวายที่ร้าน Mokuola Hawaii~* สวัสดีวันอังคารค่าา＼(^o^)／ เมื่อไม่นานมานี้เยลลี่ได้ไปเดินเล่นที่สยามพารากอนกับเพื่อนมาค่ะ แล้วก็เจอกับร้านอาหารร้านนึง บรรยากาศในร้านดูน่านั่งดีค่ะ น่าสนใจมากเลย เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฮาวาย แค่ฟังดูก็น่าสนใจแล้วเนอะ อาหารญี่ปุ่นสไตล์ฮาวายมันเป็นยังไง นึกภาพไม่ออก 55555 งั้นลองเข้าไปชิมดูดีกว่าค่ะ ร้านนี้มีชื่อว่า Mokuola Hawaii เป็นร้านเล็กๆแบบเปิดโล่งอยู่ที่ชั้น 4 ของพารากอน ตรงโซน Food Passage เมนูของทางร้านมีทั้งอาหารคาวและขนมหวาน ส่วนเมนูแนะนำของที่นี่แบบว่าใครมาต้องลอง เป็นแพนเค้กชิ้นใหญ่หนานุ่มที่แค่เห็นก็น่าทานมากกกกก วันนั้นไปทานกับเพื่อน เลยสั่งเป็นอาหารคาว 2 จานค่ะ ไปดูรูปเมนูที่สั่งกันดีกว่า~ หน้าตาน่าทานมากกกกก เหมือนรูปในเมนูเป๊ะเลยค่ะ ตอนแรกก่อนจะสั่งดูจากรูปก็คิดนะคะว่ากินของคาวเป็นแพนเค้กมันจะอิ่มเหรอ ปกติแพนเค้กจะชอบทานเป็นของหวานมากกว่า แต่พอสั่งมาแล้วเห็นของจริงเท่านั้นแหละค่ะ แพนเค้กชิ้นใหญ่มากกกกกกก และที่สำคัญคือชิ้นหนามากด้วย ไม่เคยทานแพนเค้กที่ชิ้นหนาขนาดนี้มาก่อน มาดูรูปแต่ละเมนูกันชัดๆกันอีกทีค่ะ จานนี้คือเมนู Salmon Fritto with Pancake เป็นแซลมอนฟริตโต้ชุบแกล็ดขนมปังทอดกรอบ เสิร์ฟพร้อมแพนเค้กชิ้นหนาและไข่ดาว จานที่สองเป็นเมนู Garlic Chicken Plate เป็นข้าวญี่ปุ่นหุงกับโชยุ ทานคู่กับไก่ราดซอสกระเทียม มีซุปและสลัดด้วยค่ะ บอกเลยว่ามื้อนี้อิ่มฟินมากกกกกกก แพนเค้กเนื้อหนานุ่มมากค่ะ จริงๆตั้งใจว่าจะทานเมนูแพนเค้กที่เป็นของหวานด้วยนะคะ แต่ทานของคาวกันไปคนละจานก็ไม่ไหวแล้วค่ะ เพราะอาหารจานใหญ่อยู่เหมือนกัน เอาไว้มาลองเมนูของหวานรอบหน้าละกันค่ะ 55555 เจอกันบล็อคหน้าจ้าาาา（＾∇＾）♡ ☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆ コメント（0） Tweet
› JELLYଘ(੭ˊ꒳ˋ)੭✧* › 2015年11月
)
)
