Blah Blah Blah☆彡 2015年10月26日 หลอนๆไปกับ 10 ตำนานผีของญี่ปุ่น ตอนที่ 2 こんにちは! สวัสดีค่าา ＼(^o^)／ ในบล็อกที่แล้วเยลลี่นำเสนอเรื่องตำนานผีญี่ปุ่น 5 เรื่องแรกไปแล้วนะคะ http://jelloly.namjai.cc/e167845.html วันนี้มาตามสัญญา เรามาต่อกันที่ตอนที่ 2 กับตำนานผีอีก 5 เรื่องที่เหลือกันดีกว่าค่ะ 6. สาวปากฉีก Kuchisake Onna (口裂け女) เป็นตำนานผีที่มีชื่อเสียงมากในประเทศญี่ปุ่น มีมาตั้งแต่ยุคสมัยเฮอันจนถึงปัจจุบัน คุชิซาเกะอนนะ คือ หญิงสาวที่หน้าตาสวย เธอเป็นภรรยาของซามูไรที่มีชื่อเสียง แต่โชคร้ายที่สามีของเธอคิดว่าเธอไปมีชู้ ด้วยความโกรธจึงใช้ดาบตัดปากของเธอจนฉีกถึงใบหู และยังถากถางว่า หน้าตาเธอเป็นอย่างนี้แล้ว จะมีใครหาว่าเธอสวยได้อีก เมื่อเธอตายไปจึงกลายเป็นวิญญาณอาฆาต และมีพฤติกรรมที่น่ากลัว โดยในช่วงเวลาใกล้ค่ำเธอมักจะมาอยู่ริมถนนโดยสวมผ้าปิดปาก และถ้าใครเดินผ่านมา เธอก็จะถามว่า ฉันสวยไหม? ถ้าตอบว่าสวย เธอจะเปิดผ้าปิดปากให้เหยื่อได้เห็นใบหน้าและปากที่ฉีกของเธอ แล้วถามอีกครั้งว่า แล้วแบบนี้ล่ะ? ถ้าเหยื่อตกใจแล้วพยายามวิ่งหนีเธอจะวิ่งไล่ สาวปากฉีกจะเล่นงานเหยื่อโดยจะตัดให้ปากฉีกเหมือนเธอ เชื่อกันว่าหากถูกสาวปากฉีกวิ่งไล่ให้โยนขนมหวานชื่อดัง จะดึงความสนใจสาวปากฉีกไปที่อื่นได้ และยังมีเรื่องเล่าต่อเนื่องในการตอบคำถามของเธอครั้งที่สอง หากตอบว่าไม่สวยเธอก็จะวิ่งไล่และเล่นงาน แต่หากตอบว่าก็สวยดีนี่ สาวปากฉีกจะพอใจและไม่ทำร้ายเหยื่อ แล้วจากไปแต่โดยดี 7. ผีประจำห้องน้ำ Hanako-san (花子さん) เป็นตำนานสมัยใหม่ที่นิยมมากในญี่ปุ่นโดยเฉพาะในเด็กนักเรียน ที่จะใช้ตำนานนี้ในการวัดความกล้าสำหรับบรรดาน้องใหม่ทั้งหลาย ฮานาโกะซัง คือ เด็กผู้หญิงในชุดเอี๊ยมกระโปรงสีแดง ตัดผมสั้นทรงกะลา วันหนึ่งตอนพักกลางวันเธอแอบเข้าไปในห้องน้ำแล้วออกมาไม่ได้ เด็กสาวจึงต้องเอาตัวรอดด้วยการจับแมลงและกินน้ำที่อยู่ในห้องน้ำนั้นประทังชีวิต แต่เธอก็ไม่สามารถรอดชีวิตมาได้ จึงกลายเป็นวิญญาณที่ถูกขังอยู่ในห้องน้ำนับแต่นั้นมา การจะพบฮานาโกะซังนั้นจะต้องเคาะประตู 3 ครั้ง ในห้องน้ำห้องที่ 3 ที่อยู่ชั้นที่ 4 ของโรงเรียน บ้างก็ว่าห้องสุดท้ายทางขวามือ แล้วถามว่า ฮานาโกะซัง เธออยู่ในนั้นไหม? จะมีเสียงเด็กผู้หญิงตอบมาว่า ค่ะ หรือบางทีอาจจะมีมือขาวซีดและเธอก็จะโผล่ออกมา เรื่องราวของฮานาโกะซัง ถูกเล่าขานกันไปต่างๆนานา บ้างก็ว่าเธอมุ่งร้าย บ้างก็ว่าเธอใจดี บางครั้งเรื่องของฮานาโกะซังก็ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในห้องน้ำโรงเรียน อย่างเช่น โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเขตอาดาจิของจังหวัดโตเกียว ว่ากันว่าถ้าวิ่งรอบโรงยิมสี่รอบและตะโกนว่า ฮานาโกะซัง ก็จะมีเสียงตอบมาว่า ค่ะ และถ้าถามต่ออีกว่า มาเล่นกันเถอะ จะมีเสียงเด็กผู้หญิงตอบกลับมาว่า ได้ จะเล่นอะไรกันดี? 8. เด็กสาวบ้านร้าง ซาชิกิ วาราชิ Zashiki Warashi (座敷童子) ตามความเชื่อของญี่ปุ่น ส่วนมากซาชิกิวาราชิจะเป็นเด็กผู้หญิงอายุน้อยราวๆ 5-14 ปี อาศัยอยู่ตามห้องของบ้านที่เก่าๆ และตามอาคารต่างๆ บางครั้งจะวิ่งเล่นจนผู้อาศัยได้ยินเสียง บางครั้งจะออกมาเล่นกับเด็กๆ ซึ่งผู้ใหญ่จะมองไม่เห็น และยังช่วยปกป้องเจ้าของบ้านจากอันตรายต่างๆ รวมไปถึงสิ่งอัปมงคลที่จะเข้ามาภายในบ้านที่ซาชิกิวาราชิอาศัยอยู่อีกด้วย เนื่องจากจัดเป็นผีประเภทหนึ่งและมีพลังที่น่ากลัวของเทพอารักษ์ซึ่งมีทั้งคุณและโทษ มีเรื่องเล่าว่า หากซาชิกิวาราชิไปอาศัยอยู่ที่บ้านของใคร จะนำโชคลาภมหาศาลและความมั่งคั่งมาสู่บ้านหลังนั้น แต่เมื่อใดที่จากบ้านนั้นไป ทรัพย์สมบัติและความเจริญรุ่งเรืองที่ซาชิกิวาราชินำมาจะหายไปจนหมดและความพินาศจะมาเยือน การที่ซาชิกิวาราชิจะเลือกอาศัยบ้านหลังไหนนั้นไม่ทราบแน่ชัด แต่จะชอบเลือกบ้านที่ค่อนข้างเก่า สำหรับบ้านสมัยใหม่อาจจะเลือกเข้าอยู่บ้างแต่ต้องไม่มีสำนักงานในตัวบ้าน เพราะซาชิกิวาราชิไม่ชอบกิจวัตรประจำวันที่อึกทึก ผู้คนพยายามจะสร้างห้องไว้ให้สำหรับซาชิกิวาราชิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามโรงแรมและสำนักงาน โดยจะเป็นห้องที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและของเล่น แต่ความพยายามดังกล่าวมักสูญเปล่า การจะให้ซาชิกิวาราชิอยู่บ้านใดบ้านหนึ่งนานๆ ต้องมีการดูแลที่เหมาะสม ไม่ชอบการเอาใจที่มากเกินไป เพราะว่ามีนิสัยเหมือนเด็ก บางครั้งก็สร้างปัญหาให้ได้เหมือนกัน การพูดคุยอย่างสุภาพเป็นวิธีที่ดีกว่าการแสดงอารมณ์เพราะความโกรธจะขับไล่ซาชิกิวาราชิไป 9. แม่นาคญี่ปุ่น Oiwa เรื่องมีอยู่ว่า โออิวะ หญิงสาวผู้น่าสงสารที่ถูกอิเอม่อนซึ่งเป็นสามีของเธอฆ่าตาย เพราะต้องการจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แต่บ้างก็ว่าเธอฆ่าตัวตายเอง เพราะรับเรื่องที่สามีจะไปแต่งงานกับหญิงอื่นไม่ได้ และเมื่อตายไปก็กลายเป็นวิญญาณที่มีแต่ความเคียดแค้น เพราะผิดหวังในเรื่องความรัก มีเรื่องเล่าว่าในคืนที่สามีของเธอแต่งงานใหม่ ช่วงกลางดึกที่กำลังส่งตัวเข้าหอนั้น ภาพที่อิเอม่อนเห็นในห้องหอไม่ใช่เจ้าสาวแสนสวยของเขาที่นั่งรออยู่ แต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าเป็นใบหน้าของโออิวะอันน่าสยดสยอง กำลังนั่งรออยู่ อิเอม่อนเห็นในตอนนั้นก็ตกใจและหยิบดาบมาฟันในทันที หญิงสาวซึ่งเป็นเจ้าสาวของอิเอม่อนร้องด้วยความเจ็บปวดและสิ้นใจในที่สุด เมื่ออิเอม่อนเห็นก็วิ่งหนีราวกับคนบ้าเสียสติ แต่ไม่ว่าจะหนีไปทางไหนก็พบแต่ใบหน้าของโออิวะ ที่น่าเกลียดน่ากลัวตามหลอกหลอนเค้าไปทุกที่ จนในที่สุดเค้าก็ตัดสินใจฆ่าตัวเองตายตาม 10. สาวสองปาก Futakuchi Onna (二口女) เรื่องราวเกิดจากหญิงสาวคนหนึ่ง เธอรักเฉพาะลูกของตัวเอง จึงไม่ยอมให้อาหารแก่ลูกเลี้ยงที่ติดมากับภรรยาเก่าจนหิวและอดตาย หลังจากลูกเลี้ยงตายเป็นเวลา 49 วัน ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นกับเธอ เธอเดินผ่านผู้ชายที่มายืนผ่าฟืนอยู่หน้าบ้าน ชายผ่าฟืนคนนั้นพลาดทำขวานฟาดไปที่ด้านหลังศีรษะของเธฮทำให้เกิดเป็นแผลลึก ต่อมาบาดแผลที่โดนขวานรักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย นานวันจากแผลก็กลับกลายเป็นรูปปาก กระดูกก็กลายร่างเป็นคล้ายๆฟัน เนื้อที่อยู่ข้างในก็เปลี่ยนเป็นลิ้น และว่ากันว่าถึงช่วงหนึ่งจะมีความเจ็บปวด แต่เมื่อใส่อาหารลงไปความเจ็บปวดนั้นก็หายพลัน บางครั้งปากด้านหลังก็บ่นพึมพัมว่า จงขอขมาซะ จงขอขมาซะ กล่าวกันว่าผู้หญิงที่ไม่ชอบลูกเลี้ยงและปล่อยให้อดตาย ก็จะโดนคำสาปนี้ โดยจะได้ลูกผู้หญิงที่มีสองปาก เวลาทานอาหาร เส้นผมก็จะเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นงูหรือมือคอยหยิบจับอาหารเข้าปากด้านหลัง แต่ถ้าไม่ให้ ปากด้านหลังก็จะโวยวาย และทำให้ร่างกายนั้นได้รับความทรมาน ครบแล้วค่ะกับตำนานผีญี่ปุ่นทั้ง 10 เรื่อง แต่ละเรื่องน่ากลัวและก็มีเรื่องราวที่แตกต่างกันไปนะคะ นี่เป็นแค่เรื่องที่ยกตัวอย่างมาเท่านั้นนะคะ จริงๆยังมีอีกหลายตำนานเลยค่ะที่ก็น่ากลัวไม่แพ้กัน เอาไว้เยลลี่จะรวบรวมมานำเสนอใหม่นะคะ เจอกันเอนทรี่หน้านะค๊าาา（＾∇＾）♡ ขอบคุณข้อมูลจาก marumura , wikipedia ☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆ コメント（0） Tweet
Blah Blah Blah☆彡 2015年10月22日 หลอนๆไปกับ 10 ตำนานผีของญี่ปุ่น ตอนที่ 1 こんにちは! สวัสดีค่าา ＼(^o^)／ วันนี้ขอเสนออะไรที่เข้ากับบรรยากาศวันฮาโลวีนนิดนึงนะคะ เอาใจคนชอบเรื่องลี้ลับปนหลอนๆด้วยเรื่อง 10 ตำนานผีญี่ปุ่นค่ะ ผีแต่ละแบบเรื่องราวที่มาแตกต่างกันไปค่ะ ขอแบ่งเป็น 2 ตอนนะคะ ไปเริ่มกันเลยดีกว่าาาา 1. สาวคอยาว หรือ โรคุโรคุบิ (ろくろ首) ตำนานนี้คล้ายๆกับผีกระสือของไทยค่ะ เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ต้องคำสาป ในตอนกลางวันจะเป็นคนปกติ แต่พอตกกลางคืนคอของเธอจะยืดยาวออกมา ส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้หญิง สาวคอยาวจะดูดพลังของเหยื่อที่เป็นทั้งคนและสัตว์ แต่ที่ชื่นชอบที่สุดจะเป็นพลังของผู้ชาย เธอมักจะเป็นผู้หญิงที่ต้องพบกับรักที่ผิดหวัง เพราะเมื่อสามีของเธอมาพบว่าเธอกลายเป็นสาวคอยาว ก็มักจะหนีไปด้วยความหวาดกลัว สาวคอยาวมักจะแฝงตัวอยู่กับคนธรรมดา และต้องทุกข์ทรมาณกับการพยายามปิดบังร่างที่แท้จริงของเธอ เธอมักจะแสดงร่างจริงออกมาต่อหน้าพวกขี้เมา หรือพวกงี่เง่าเท่านั้น สาวคอยาวไม่มีนิสัยชอบหลอกคนเหมือนผีร้ายอื่นๆ เพราะยังมีความเป็นมนุษย์อยู่มาก และยังคิดว่าตัวเองสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมนุษย์ปกติ บางครั้งคอจึงยาวออกมาในตอนหลับ พอตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกว่าตัวเองปวดคอ และฝันเห็นสถานที่ต่างๆ ในมุมมองที่แปลกๆ บางครั้งก็ว่าเป็นการถอดวิญาณในขณะนอนหลับ แต่ว่าเป็นการถอดวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ จึงถอดออกไปได้แค่ศีรษะเท่านั้น ทำให้กลายเป็นผีสาวคอยาว นอกจากนี้ยังสามารถเป็นได้กับผู้ชายอีกด้วย เรียกว่า ชายคอยาว(โรกุโระเบ) 2. เจ้าหญิงหิมะ หรือ ยูกิอนนะ (雪おんな) ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น เธอคือภูตสาวโฉมงาม ผิวขาวซีด สวมชุดกิโมโนสีขาว มักปรากฎกายให้เห็นในคืนที่มีพายุหิมะ เรียกกันด้วยชื่อที่หลากหลายทั้ง ปีศาจหิมะ นางหิมะ หรือ สตรีหิมะ ตำนานของเจ้าหญิงหิมะนั้นมีหลายเรื่องราวที่คนเล่าต่อๆกันมาค่ะ บ้างก็เล่าว่านักเดินทางที่โชคไม่ดีจะได้พบกับสตรีหิมะอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ เธอจะสวมกิโมโนสีขาว และค่อนข้างตัวสูง บางคนก็เล่าว่าเธอสวมกิโมโนสีแดง และรอยเท้าที่เธอเดินนั้นก็เต็มไปด้วยคราบเลือด บางครั้งเชื่อว่าสตรีหิมะเป็นวิญญาณของหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิตเพราะพายุหิมะ เมื่อใครเดินผ่านมาตามทางแล้วพบเห็นเธอเข้า เธอจะยิ้มและยอมให้คนนั้นอุ้มลูก เมื่ออุ้มแล้ว เหยื่อจะไม่สามารถปล่อยลูกของเธอได้ ลูกของเธอจะหนักขึ้นและเย็นจนแข็ง ทำให้เหยื่อขยับไปไหนไม่ได้ และจะจมไปในหิมะ อีกตำนานเล่าว่าเจ้าหญิงหิมะเป็นจิตวิญญาณของหิมะ หรืออาจเป็นวิญญาณของหญิงสาวที่ตายท่ามกลางพายุหิมะ ในบางพื้นที่ของญี่ปุ่น เช่นจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ก็เชื่อว่า เจ้าหญิงหิมะเป็นเจ้าหญิงบนดวงจันทร์ที่เบื่อชีวิตบนสวรรค์ จึงลงมาบนโลกในวันที่หิมะตกหนัก แต่จากนั้นเธอก็พบว่าเธอไม่สามารถกลับขึ้นไปบนสวรรค์ได้อีก เธอจึงมักจะปรากฏตัวในคืนที่หิมะตกหนักและมีแสงจันทร์ส่องสว่าง ส่วนตำนานที่ถูกเล่าต่อกันมากและขึ้นชื่อที่สุด ว่ากันว่ามีชายตัดฟืนสองคน เป็นชายแก่กับชายหนุ่ม เดินทางท่ามกลางพายุหิมะ ระหว่างทางพบกระท่อมร้างจึงตัดสินใจเข้าไปหลบพัก ในขณะที่ชายแก่กำลังนอนหลับและชายหนุ่มกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่นั้น มีหญิงสาวหน้าตางดงาม ผิวสีขาวซีด สวมชุดกิโมโนสีขาวเดินเข้ามา เป่าลมหายใจเย็นยะเยือกบนร่างของชายแก่ ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ได้แต่คิดว่าถึงคราวสิ้นชีวิตแล้วแน่ๆ แต่นางเพียงให้ชายหนุ่มสัญญาว่าจะไม่นำเรื่องที่เคยเจอนางที่นี่ไปบอกใครแล้วจะไว้ชีวิต ชายหนุ่มตอบตกลงแล้วนางก็จากไป จากนั้นชายหนุ่มก็พยายามปลุกชายแก่ให้ตื่น แต่ชายแก่ได้ถึงแก่ชีวิตเพราะลมหายใจอันเย็นยะเยือกนั้นแล้ว หลายปีผ่านไป ชายหนุ่มใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่เคยเล่าเหตุการณ์นี้ให้ใครฟัง วันหนึ่งชายหนุ่มได้พบรักกับสาวสวยจนได้แต่งงานและมีลูกด้วยกัน อยู่กันอย่างมีความสุข จนกระทั่งในคืนที่มีหิมะตกหนัก ชายหนุ่มนึกถึงเรื่องราวในคืนที่ได้พบกับเจ้าหญิงหิมะ จึงพลั้งปากเล่าให้ภรรยาฟัง เมื่อได้ฟังดังนั้นภรรยาก็โกรธมาก และบอกว่าแท้จริงแล้วนางคือเจ้าหญิงหิมะตนนั้น ที่นางยอมไว้ชีวิตชายหนุ่มเพราะนางตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ถึงแม้วันนี้ชายหนุ่มได้ผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ นางก็สมควรที่จะต้องปลิดชีวิตชายหนุ่มลง แต่นางจำต้องไว้ชีวิตชายหนุ่มอีกเป็นครั้งที่สองเพราะเห็นแก่ลูกๆ เมื่อพูดจบก็เดินจากไปพร้อมกับพายุหิมะในคืนนั้น และไม่มีใครพบนางอีกเลย 3. ผีไม่มีหน้า Noppere Bou (のっぺらぼう) ตำนานเกิดขึ้นเมื่อสมัยเอโดะ เป็นผีที่มีแต่ใบหน้าเกลี้ยงๆ คล้ายไข่ปลอก ไม่มีตา จมูก ปาก ผีตนนี้มักเที่ยวหลอกหลอนคนที่เดินผ่านทางในเวลากลางคืน เรื่องราวของผีไม่มีหน้านั้นยังมีเรื่องกล่าวขานต่างกันไปตามพื้นที่และยุคสมัย มีเรื่องเล่าของชายคนหนึ่งที่สัญจรผ่านถนนอาคาซากะ ระหว่างที่เขาเดินมาถึงเนินคุนิซากะ ก็ได้เจอหญิงสาวยืนร้องไห้ ชายคนนั้นก็เข้าไปพูดคุยและปลอบเธอ และระหว่างนั้นเธอก็ได้หันมาพร้อมกับใบหน้าที่ว่างเปล่า เขาตกใจกลัวและวิ่งหนีจนมาถึงร้านโซบะ ระหว่างที่เขาพักเหนื่อยเขาก็ได้เล่าเรื่องราวให้กับพ่อค้าร้านโซบะฟัง หลังจากนั้นพ่อค้าร้านโซบะก็ได้เอามือลูบหน้า และก็กลายเป็นผีไม่มีหน้าไปอีกตน 4. ผีสามหัว Maikubi (舞い首) ตำนานผีสามหัวถูกเล่าขานต่อๆกันมาจากตำนานหนึ่งร้อยหนังสือภาพ ซึ่งกล่าวว่า ช่วงยุคสมัยคามาคุระ ตอนกลางในคืนเทศกาลวันมานะสุรุ มีสามซามูไรที่นิสัยไม่ดีชอบโอ้อวดตนนามว่า โคซันตะ มาตะชิงะ และอาคุโกโร มีปากเสียงทะเลาะกันเนื่องจากเมาสุรา ด้วยนิสัยที่ไม่ยอมแพ้ ทั้งสามซามูไรจึงตัดสินใจชักดาบขึ้นมาเพื่อตัดสินความถูกต้องของตนเอง ซามูไรอากุโกโรได้ฟันคอโคะซังตะจนขาด มาตะชิเงะเห็นก็วิ่งหนีหลบเข้าไปในภูเขา แต่มาตะชิเงะดันพลาดท่าสะดุดก้อนหินล้มลง เมื่ออากุโกโรเห็นจึงมีโอกาสตัดคอมาตะชิเงะ แต่เฮือกสุดท้ายของมาตะชิงะก็พยายามพยุงตัวลุกขึ้นและตัดคออากุโกโรเช่นกัน ในที่สุดหัวของสามซามูไรจึงได้กลิ้งตกลงไปในทะเล ตั้งแต่นั้นมา คอทั้งสามตนนี้จะต่อสู้กันในทะเลนี้ และในตอนกลางคืนผีสามตนนี้ก็จะพ่นไฟออกมา เกิดเป็นคลื่นเหนือท้องทะเล มีความเชื่อกันว่า ถ้าไปตะโกนเรียกชื่อทั้งสามซามูไรริมทะเลแห่งนี้ ผีสามหัวก็จะมาปรากฏมาให้เห็น 5. ผีนับจาน Sarayashiki (皿屋敷) หรือโอคิคุ เป็นเรื่องเล่าของวิญญาณที่จะออกมาจากบ่อน้ำในปราสาทฮิเมจิและเริ่มนับจานตั้งแต่ใบที่ 1 พอถึงใบที่ 9 ก็จะร้องไห้อย่างหัวใจสลาย ซึ่งที่มาก่อนที่โอคิคุจะกลายเป็นผีนั้นมีหลายเรื่องเล่า บางเรื่องกล่าวว่าโอคิคุทำจานของเจ้านายแตก เจ้านายโมโหมากจึงฆ่านางแล้วเอาศพทิ้งลงบ่อน้ำ เรื่องเล่าที่มีชื่อเสียงของโอคิคุกล่าวว่า เธอเป็นสาวใช้ของอาโอยาม่า ผู้หวังจะโค่นล้มอำนาจของเจ้าเมือง โอคิคุบังเอิญไปได้ยินแผนการเข้า เธอจึงไปเล่าให้คนรักของเธอฟัง ซึ่งคนรักของเธอเป็นทหารเจ้าเมือง แผนการของอาโอยาม่าจึงถูกเปิดโปงและล้มเหลวในที่สุด เมื่ออาโอยาม่ารู้ว่าโอคิคุได้ยินเรื่องแผนการและเป็นต้นเหตุทีทำให้แผนล้มเหลว อาโอยาม่าจึงวางแผนจะสังหารเธอ โดยหาเรื่องใส่ความโอคิคุว่าเธอขโมยจานที่ล้ำค่าไป 1 ใบซึ่งในชุดจานนั้นจะมี 10 ใบ โอคิคุจึงถูกทรมานจนตาย และศพถูกทิ้งลงบ่อน้ำนั้นเอง บ่อน้ำในปราสาทฮิเมจิ จบไปแล้วค่ะกับตำนานผีญี่ปุ่นทั้ง 5 เป็นไงกันบ้างคะ วันจันทร์จะมาต่อกับผีญี่ปุ่นที่เหลือนะคะ เจอกันวันจันทร์ค่าาา（＾∇＾）♡ ขอบคุณข้อมูลจาก marumura , wikipedia ☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆ コメント（0） Tweet
› JELLYଘ(੭ˊ꒳ˋ)੭✧* › ตำนานผีของญี่ปุ่น
