Blah Blah Blah☆彡
หลอนๆไปกับ 10 ตำนานผีของญี่ปุ่น ตอนที่ 1
วันนี้ขอเสนออะไรที่เข้ากับบรรยากาศวันฮาโลวีนนิดนึงนะคะ
เอาใจคนชอบเรื่องลี้ลับปนหลอนๆด้วยเรื่อง 10 ตำนานผีญี่ปุ่นค่ะ
ผีแต่ละแบบเรื่องราวที่มาแตกต่างกันไปค่ะ ขอแบ่งเป็น 2 ตอนนะคะ
ไปเริ่มกันเลยดีกว่าาาา


1. สาวคอยาว หรือ โรคุโรคุบิ (ろくろ首)

ตำนานนี้คล้ายๆกับผีกระสือของไทยค่ะ เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ต้องคำสาป
ในตอนกลางวันจะเป็นคนปกติ แต่พอตกกลางคืนคอของเธอจะยืดยาวออกมา ส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้หญิง
สาวคอยาวจะดูดพลังของเหยื่อที่เป็นทั้งคนและสัตว์ แต่ที่ชื่นชอบที่สุดจะเป็นพลังของผู้ชาย
เธอมักจะเป็นผู้หญิงที่ต้องพบกับรักที่ผิดหวัง เพราะเมื่อสามีของเธอมาพบว่าเธอกลายเป็นสาวคอยาว ก็มักจะหนีไปด้วยความหวาดกลัว
สาวคอยาวมักจะแฝงตัวอยู่กับคนธรรมดา และต้องทุกข์ทรมาณกับการพยายามปิดบังร่างที่แท้จริงของเธอ
เธอมักจะแสดงร่างจริงออกมาต่อหน้าพวกขี้เมา หรือพวกงี่เง่าเท่านั้น
สาวคอยาวไม่มีนิสัยชอบหลอกคนเหมือนผีร้ายอื่นๆ เพราะยังมีความเป็นมนุษย์อยู่มาก และยังคิดว่าตัวเองสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมนุษย์ปกติ
บางครั้งคอจึงยาวออกมาในตอนหลับ พอตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกว่าตัวเองปวดคอ และฝันเห็นสถานที่ต่างๆ ในมุมมองที่แปลกๆ
บางครั้งก็ว่าเป็นการถอดวิญาณในขณะนอนหลับ แต่ว่าเป็นการถอดวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ จึงถอดออกไปได้แค่ศีรษะเท่านั้น ทำให้กลายเป็นผีสาวคอยาว
นอกจากนี้ยังสามารถเป็นได้กับผู้ชายอีกด้วย เรียกว่า ชายคอยาว(โรกุโระเบ)
2. เจ้าหญิงหิมะ หรือ ยูกิอนนะ (雪おんな)

ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น เธอคือภูตสาวโฉมงาม ผิวขาวซีด สวมชุดกิโมโนสีขาว มักปรากฎกายให้เห็นในคืนที่มีพายุหิมะ
เรียกกันด้วยชื่อที่หลากหลายทั้ง ปีศาจหิมะ นางหิมะ หรือ สตรีหิมะ
ตำนานของเจ้าหญิงหิมะนั้นมีหลายเรื่องราวที่คนเล่าต่อๆกันมาค่ะ
บ้างก็เล่าว่านักเดินทางที่โชคไม่ดีจะได้พบกับสตรีหิมะอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ เธอจะสวมกิโมโนสีขาว และค่อนข้างตัวสูง
บางคนก็เล่าว่าเธอสวมกิโมโนสีแดง และรอยเท้าที่เธอเดินนั้นก็เต็มไปด้วยคราบเลือด
บางครั้งเชื่อว่าสตรีหิมะเป็นวิญญาณของหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิตเพราะพายุหิมะ เมื่อใครเดินผ่านมาตามทางแล้วพบเห็นเธอเข้า เธอจะยิ้มและยอมให้คนนั้นอุ้มลูก เมื่ออุ้มแล้ว เหยื่อจะไม่สามารถปล่อยลูกของเธอได้ ลูกของเธอจะหนักขึ้นและเย็นจนแข็ง ทำให้เหยื่อขยับไปไหนไม่ได้ และจะจมไปในหิมะ
อีกตำนานเล่าว่าเจ้าหญิงหิมะเป็นจิตวิญญาณของหิมะ หรืออาจเป็นวิญญาณของหญิงสาวที่ตายท่ามกลางพายุหิมะ
ในบางพื้นที่ของญี่ปุ่น เช่นจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ก็เชื่อว่า เจ้าหญิงหิมะเป็นเจ้าหญิงบนดวงจันทร์ที่เบื่อชีวิตบนสวรรค์ จึงลงมาบนโลกในวันที่หิมะตกหนัก แต่จากนั้นเธอก็พบว่าเธอไม่สามารถกลับขึ้นไปบนสวรรค์ได้อีก เธอจึงมักจะปรากฏตัวในคืนที่หิมะตกหนักและมีแสงจันทร์ส่องสว่าง
ส่วนตำนานที่ถูกเล่าต่อกันมากและขึ้นชื่อที่สุด ว่ากันว่ามีชายตัดฟืนสองคน เป็นชายแก่กับชายหนุ่ม เดินทางท่ามกลางพายุหิมะ
ระหว่างทางพบกระท่อมร้างจึงตัดสินใจเข้าไปหลบพัก ในขณะที่ชายแก่กำลังนอนหลับและชายหนุ่มกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่นั้น มีหญิงสาวหน้าตางดงาม
ผิวสีขาวซีด สวมชุดกิโมโนสีขาวเดินเข้ามา เป่าลมหายใจเย็นยะเยือกบนร่างของชายแก่ ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ได้แต่คิดว่าถึงคราวสิ้นชีวิตแล้วแน่ๆ แต่นางเพียงให้ชายหนุ่มสัญญาว่าจะไม่นำเรื่องที่เคยเจอนางที่นี่ไปบอกใครแล้วจะไว้ชีวิต ชายหนุ่มตอบตกลงแล้วนางก็จากไป จากนั้นชายหนุ่มก็พยายามปลุกชายแก่ให้ตื่น แต่ชายแก่ได้ถึงแก่ชีวิตเพราะลมหายใจอันเย็นยะเยือกนั้นแล้ว หลายปีผ่านไป ชายหนุ่มใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่เคยเล่าเหตุการณ์นี้ให้ใครฟัง
วันหนึ่งชายหนุ่มได้พบรักกับสาวสวยจนได้แต่งงานและมีลูกด้วยกัน อยู่กันอย่างมีความสุข จนกระทั่งในคืนที่มีหิมะตกหนัก ชายหนุ่มนึกถึงเรื่องราวในคืนที่ได้พบกับเจ้าหญิงหิมะ จึงพลั้งปากเล่าให้ภรรยาฟัง เมื่อได้ฟังดังนั้นภรรยาก็โกรธมาก และบอกว่าแท้จริงแล้วนางคือเจ้าหญิงหิมะตนนั้น ที่นางยอมไว้ชีวิตชายหนุ่มเพราะนางตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ถึงแม้วันนี้ชายหนุ่มได้ผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ นางก็สมควรที่จะต้องปลิดชีวิตชายหนุ่มลง แต่นางจำต้องไว้ชีวิตชายหนุ่มอีกเป็นครั้งที่สองเพราะเห็นแก่ลูกๆ เมื่อพูดจบก็เดินจากไปพร้อมกับพายุหิมะในคืนนั้น และไม่มีใครพบนางอีกเลย
3. ผีไม่มีหน้า Noppere Bou (のっぺらぼう)

ตำนานเกิดขึ้นเมื่อสมัยเอโดะ เป็นผีที่มีแต่ใบหน้าเกลี้ยงๆ คล้ายไข่ปลอก ไม่มีตา จมูก ปาก ผีตนนี้มักเที่ยวหลอกหลอนคนที่เดินผ่านทางในเวลากลางคืน
เรื่องราวของผีไม่มีหน้านั้นยังมีเรื่องกล่าวขานต่างกันไปตามพื้นที่และยุคสมัย มีเรื่องเล่าของชายคนหนึ่งที่สัญจรผ่านถนนอาคาซากะ ระหว่างที่เขาเดินมาถึงเนินคุนิซากะ ก็ได้เจอหญิงสาวยืนร้องไห้ ชายคนนั้นก็เข้าไปพูดคุยและปลอบเธอ และระหว่างนั้นเธอก็ได้หันมาพร้อมกับใบหน้าที่ว่างเปล่า เขาตกใจกลัวและวิ่งหนีจนมาถึงร้านโซบะ ระหว่างที่เขาพักเหนื่อยเขาก็ได้เล่าเรื่องราวให้กับพ่อค้าร้านโซบะฟัง หลังจากนั้นพ่อค้าร้านโซบะก็ได้เอามือลูบหน้า และก็กลายเป็นผีไม่มีหน้าไปอีกตน
4. ผีสามหัว Maikubi (舞い首)

ตำนานผีสามหัวถูกเล่าขานต่อๆกันมาจากตำนานหนึ่งร้อยหนังสือภาพ ซึ่งกล่าวว่า ช่วงยุคสมัยคามาคุระ ตอนกลางในคืนเทศกาลวันมานะสุรุ
มีสามซามูไรที่นิสัยไม่ดีชอบโอ้อวดตนนามว่า โคซันตะ มาตะชิงะ และอาคุโกโร มีปากเสียงทะเลาะกันเนื่องจากเมาสุรา ด้วยนิสัยที่ไม่ยอมแพ้ ทั้งสามซามูไรจึงตัดสินใจชักดาบขึ้นมาเพื่อตัดสินความถูกต้องของตนเอง ซามูไรอากุโกโรได้ฟันคอโคะซังตะจนขาด มาตะชิเงะเห็นก็วิ่งหนีหลบเข้าไปในภูเขา แต่มาตะชิเงะดันพลาดท่าสะดุดก้อนหินล้มลง เมื่ออากุโกโรเห็นจึงมีโอกาสตัดคอมาตะชิเงะ แต่เฮือกสุดท้ายของมาตะชิงะก็พยายามพยุงตัวลุกขึ้นและตัดคออากุโกโรเช่นกัน ในที่สุดหัวของสามซามูไรจึงได้กลิ้งตกลงไปในทะเล ตั้งแต่นั้นมา คอทั้งสามตนนี้จะต่อสู้กันในทะเลนี้ และในตอนกลางคืนผีสามตนนี้ก็จะพ่นไฟออกมา เกิดเป็นคลื่นเหนือท้องทะเล มีความเชื่อกันว่า ถ้าไปตะโกนเรียกชื่อทั้งสามซามูไรริมทะเลแห่งนี้ ผีสามหัวก็จะมาปรากฏมาให้เห็น
5. ผีนับจาน Sarayashiki (皿屋敷) หรือโอคิคุ

เป็นเรื่องเล่าของวิญญาณที่จะออกมาจากบ่อน้ำในปราสาทฮิเมจิและเริ่มนับจานตั้งแต่ใบที่ 1 พอถึงใบที่ 9 ก็จะร้องไห้อย่างหัวใจสลาย ซึ่งที่มาก่อนที่โอคิคุจะกลายเป็นผีนั้นมีหลายเรื่องเล่า บางเรื่องกล่าวว่าโอคิคุทำจานของเจ้านายแตก เจ้านายโมโหมากจึงฆ่านางแล้วเอาศพทิ้งลงบ่อน้ำ
เรื่องเล่าที่มีชื่อเสียงของโอคิคุกล่าวว่า เธอเป็นสาวใช้ของอาโอยาม่า ผู้หวังจะโค่นล้มอำนาจของเจ้าเมือง โอคิคุบังเอิญไปได้ยินแผนการเข้า
เธอจึงไปเล่าให้คนรักของเธอฟัง ซึ่งคนรักของเธอเป็นทหารเจ้าเมือง แผนการของอาโอยาม่าจึงถูกเปิดโปงและล้มเหลวในที่สุด
เมื่ออาโอยาม่ารู้ว่าโอคิคุได้ยินเรื่องแผนการและเป็นต้นเหตุทีทำให้แผนล้มเหลว อาโอยาม่าจึงวางแผนจะสังหารเธอ โดยหาเรื่องใส่ความโอคิคุว่าเธอขโมยจานที่ล้ำค่าไป 1 ใบซึ่งในชุดจานนั้นจะมี 10 ใบ โอคิคุจึงถูกทรมานจนตาย และศพถูกทิ้งลงบ่อน้ำนั้นเอง
บ่อน้ำในปราสาทฮิเมจิ


จบไปแล้วค่ะกับตำนานผีญี่ปุ่นทั้ง 5 เป็นไงกันบ้างคะ
วันจันทร์จะมาต่อกับผีญี่ปุ่นที่เหลือนะคะ
เจอกันวันจันทร์ค่าาา(^∇^)♡
ขอบคุณข้อมูลจาก marumura , wikipedia
☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆